by author1 author1

มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19

มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19
และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 19
Thailand Herbal Expo 2022
“สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยกัญชาไทย นวดไทย อาหารไทย”
.
📣ระหว่างวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565
เวลา 10.00 – 20.00 น.
ณ อาคาร 11 – 12 และห้องประชุมฟีนิกซ์ 2 – 6
ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
.
********************
.
1. รูปแบบการจัดงาน : Hybrid Exhibition ประกอบด้วย On Site และ Online
.
2. กิจกรรมภายในงาน :
🟢โซนแสดง Innovation ประกอบด้วย
1) Business Matching และแสดง R&D ปรึกษาหารือ เจรจาธุรกิจ และแสดงนิทรรศการเพื่อนำเสนองานวิจัย และนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในทุกระดับ
2) Showcase เน้นกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs โดยเชิญเครือข่ายเข้าร่วม showcase
3) Innovation แสดงศักยภาพของผู้ประกอบการ
🔸️Beauty & Cosmetic Wellness
🔸️Ganja
🔸️Food & Beverage
4) นิทรรศการ
🔸️Beauty & Cosmetic Wellness
🔸️Ganja UNESCO World Integral Heritage
🔸️อาหารไทย อาหารเป็นยา (ลานเมือง)
.
🟢โซน Wisdom ประกอบด้วย
1) นิทรรศการ 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย ให้บริการ สาธิตโดยหมอพื้นบ้าน หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ แสดงผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น
2) นวดไทย 4 ภูมิภาค ให้บริการและสาธิตด้านการนวดไทย เช่น การเหยียบเหล็กแดง และการนวดน้ำมันลังกาสุกะ
3) กาดมั่ว สาธิต จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่พัฒนาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
.
🟢โซน Service ให้บริการและให้คำปรึกษาฟรี ด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก
.
🟢โซนวิชาการ
🔸️การประชุมวิชาการประจำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 19 หัวข้อประชุมวิชาการ Plenary 3 หัวข้อ Symposium 10 หัวข้อ
ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2565 ณ ห้องประชุมฟีนิกซ์ 2 – 6
🔸️การประกวดผลงานวิชาการประจำปี
นำเสนอผลงงานวิชาการที่ผ่านการคัดเลือก ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2565
🔸️อบรมตลอดความรู้ (หลักสูตรระยะสั้น) ฟรี จำนวน 27 หลักสูตร
ระหว่างวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2565 รูปแบบ Onsite ในห้องฟินิกซ์ 2-6 & ผ่านระบบ Facebook Live
.
🟢โซนเวทีกลาง (Main Stage) : กิจกรรมพิธีเปิด พิธีมอบรางวัล และกิจกรรมต่าง ๆ บนเวทีอีกมากมาย
.
🟢 โซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐาน
.
ฟรีตลอดทั้งงาน
🔺️ชมนิทรรศการ : ระหว่างวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 – 20.00 น.
🔺️ประชุมวิชาการประจำปี : ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 – 17.30 น.
🔺️อบรมตลาดความรู้ : ระหว่างวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 – 18.00 น.
🔺️แจกกล้าไม้ และกล้าไม้ยืนต้น สมุนไพร ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ แจกผลิตภัณฑ์สมุนไพร และลุ้นรางวัลมากมาย
.
********************
.
ติดตามที่
🌏 website : https://natherbexpo.dtam.moph.go.th/index.php?lang=th
👍 FB : https://www.facebook.com/natherbexpo
📲โทรศัพท์ : 021495649
#มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่19

 

by author1 author1

ขั้นตอนการสกัดดอกเก๊กฮวยแห้ง

ขั้นตอนการสกัดดอกเก๊กฮวยแห้ง


1.ดอกเก๊กฮวยที่นำมาแปรรูป

2..แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว


3.ผลิตภัณฑ์น้ำสกัดเก๊กฮวยที่ได้

by author1 author1

ดอกเก๊กฮวย

ดอกเก๊กฮวย

ดอกเก๊กฮวย หรือจวี๋ฮัว มีหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์หลักที่ใช้เป็นยา คือ สีขาว Dendranthema morifolium (Ramat.) Tzvel. หรือ Chrysanthemum morifolium Ramat. ตระกูล Asteraceae และส่วนสายพันธุ์ดอกสีเหลือง Dendranthema indicum L. หรือ Chrysanthemum indicum L .

แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php

การเก็บดอกเป็นยา จะเก็บเมื่อปลายฤดูใบไม้ร่วง และช่วงต้นของฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ชนิดนี้บาน นำมาตากในที่ร่วมจนแห้ง คุณสมบัติประจำตัว คือ มีกลิ่นฉุน ขม และ รสหวาน มีความเย็น มีผลโดยตรงต่อปอด และ ตับ การออกฤทธิ์ ขับไล่ลม (วาตะ) ความร้อน ช่วยขจัดความร้อนหรือไฟออกจากตับ อันจะมีผลช่วยในการรักษาโรคทางตา และขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php

สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์

  1. ใช้รักษาโรคทางร่างกายภายนอกหรือนอกอวัยวะ เนื่องมาจากลม และความร้อน
  2. ใช้สำหรับอาการตาบวม แดง และปวดตา ตามองไม่ชัด หรือเบลอ และอาการอ่อนแรง
  3. ใช้สำหรับการมึนศีรษะ และปวดหัว สามารถใช้ร่วมกับ โกฐสอ และอื่น ๆ
  4. กรณีเป็นฝีเป็นหนอง บวมและเป็นพิษ อาจใช้ดอกสด แล้วนำมาบดผสมน้ำ แล้วดื่ม แล้วนำกากมาพอก

 

 

ตำรายาเวียตนามกล่าวถึง เก๊กฮวยจีนดอกสีขาวว่า ใช้เหมือนดอกสีเหลือง

มีประโยชน์ต่อเลือด และการไหลเวียนเลือด ให้พลังชีวิต ดอกใช้ในการแก้หวัด ปวดหัวและตาอักเสบ ใช้ประโยชน์โดยเฉพาะในการรักษาผมร่วง หรือทำให้ไม่เปลี่ยนเป็นสีเทา

สรุปการใช้เก๊กฮวย แก้หวัด แก้ร้อนใน แก้อาการตาเจ็บ ตาบวม ขนาดการใช้ ใช้ดอกแห้ง ประมาณ ๕-๙ กรัม ต้มกิน หรือทำเป็นชา ต้มดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php

 

แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

  • สำหรับดอกเก๊กฮวยจะที่นำมาใช้ ควรเป็นดอกสีขาวหรือดอกสีเหลือง
  • สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร การดื่มชาเก็กฮวยอ าจทำให้เกิดกรดในกระเพาะเพิ่มมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย หรือมีอาการท้องเสียง่าย ควรดื่มน้ำเก๊กฮวยในปริมาณที่พอเหมาะ
  • เก๊กฮวยเป็นพืชในวงศ์เดียวกับเบญจมาศ ผู้ที่มีอาการแพ้พืชตระกูลนี้มีแนวโน้มแพ้เก๊กฮวยได้เช่นกัน
  • เก๊กฮวยอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด ผู้ที่รับประทานยาเป็นประจำหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ จากเก๊กฮวย
  • น้ำมันที่ได้จากการสกัดดอกเก๊กฮวย จะประกอบด้วยสารไพรีทรัม (Pyrethrum) ซึ่งเหมือนสารประกอบในยาฆ่าแมลง ดังนั้นจึงควรใช้น้ำมันชนิดนี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะการสัมผัสโดนโดยตรงหรือใช้เป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนัง ปาก ตา และจมูกได้

 

แหล่งที่มา : https://www.disthai.com/16963821

by author1 author1

กัญชาพารวยเพื่อการแปรสินค้าการเกษตร

วันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่บริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

 

นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการสัมมนากัญชาพารวยครั้งที่ 49 ณ ศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการอบแห้งแบบพ่นฝอย สถานประกอบการเครือข่าย สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มีหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย องค์การเภสัช คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ม.บูรพา กองพัฒนาเกษตรอุสาหกรรม กสอ. ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่10 อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย สวทช. ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรมการพัฒนาชุมชน กลุ่มไบโอเทคสภาอุตสาหกรรม และสมาคมนักข่าวปทุมธานี เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ กัญชา กัญชง และกระท่อม โดยมีวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนแปรรูปและสกัดสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดมาใช้เป็นยารักษาโรคโดยใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรม

ด้านนายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การสัมมาครั้งนี้ บริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด ในฐานะเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อแปรรูปสินค้าการเกษตร ซึ่งกลุ่มส่งเสริมอุสาหกรรมและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสิ้นค่าเกษตรและมีการจัดตั้งกองเกษตรอุสาหกรรมที่จะพัฒนาเทคโนโลยี เรื่องของการขยายเครือข่ายและการตลาดที่เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่ง บริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องมือและเครื่องจักรการแปรรูปสิ้นค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น เครื่องสเปรย์ดราย เครื่องฟรีซดราย ซึ่งในวันนี้จะเป็นหัวข้อของพืช 3 ก. คือ กัญชา กัญชงและกระท่อม เพื่อการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าซึ่งต่อไปจะเป็นพืชที่สำคัญของประเทศ

โดยมีวิทยากรเชี่ยวชาญให้ความรู้ โดย นายสาธร เตรียมชัยศรี กรรมการบริหารบริษัท ยูโร เบสท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า โครงการกัญชาพารวย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านการสกัด กัญชง กัญชาและกระท่อม เพื่อให้เป็นลักษณะสารสำคัญที่บริสุทธิ์ และสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์ได้ โดยได้ให้ความรู้ทางด้านเครื่องจักรที่ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไร มูลค่าในการตลาดว่าขายได้ในราคาเท่าไรและการคืนทุนภายในกี่ปี และทางบริษัทเราได้จัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการอบแห้งและพ่นฝอย คือ เครื่องสเปรย์ดราย เป็นต้น ส่วนเรื่องกัญชา กัญชง ที่กำลังเด่นในตอนนี้ ทางบริษัทฯก็ได้ทำเครื่องจักรเพื่อมารองรับการสกัดในทางการแพทย์ไว้แล้วในการแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เช่น สกัดเป็นสารเข้มข้น เป็นผง หรือบรรจุแคปซูล สามารถทำได้ด้วยเครื่องจักของเราที่มีอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังมีเครื่องมือที่ใช้ในห้องแลป เพื่อการใช้ในการวิจัยในรูปแบบต่างๆ มีทั้งเครื่องที่ขนาดเล็กจนไปถึงเครื่องขนาดที่ใหญ่ที่ใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ทางบริษัทฯรับจ้างผลิตด้วยเพื่อลูกค้าและหน่วยงานใดที่ยังไม่พร้อมซื้อเครื่องจักรที่มีสินค้าและพร้อมจะผลิต


 

สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทร 081-807-2275 หรือเข้าไปที่ www.eurobest.co.th

แหล่งที่มาทั้งหมด
ปทุมธานี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุสาหกรรมเปิดสัมมนา กัญชาพารวยเพื่อการแปรสินค้าการเกษตร – หนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ (5forcenews.com)

by author1 author1

กวาวเครือขาว

กวาวเครือขาวกับสรรพคุณบำรุงสุขภาพผู้หญิง

กวาวเครือขาว  (Pueraria Mirifica) เป็นพืชที่พบได้ในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกวาวเครือขาวที่พบในท้องตลาด มักเป็นกวาวเครือขาวสกัดในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามของผู้หญิง ผู้ขายมักโฆษณาว่าอาหารเสริมกวาวเครือขาวช่วยลดอาการวัยทองและอีกหลายสรรพคุณ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์

กวาวเครือขาว  มีสารเคมีธรรมชาติที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศของผู้หญิง ผู้ขายหรือแพทย์แผนโบราณบางส่วน จึงเชื่อว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้ช่วยบรรเทาอาการของสตรีวัยหมดประจำเดือนและบำรุงสุขภาพผู้หญิงได้ แต่ในมุมของแพทย์แผนปัจจุบัน สารเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดความเสี่ยงบางอย่างได้

กวาวเครือขาวเพิ่มขนาดหน้าอกได้จริงหรือ ?

โดยผู้ขายอนุมานจากส่วนประกอบของกวาวเครือขาว ที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ที่ทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย เพราะเดิมทีการเจริญเติบโตของขนาดหน้าอกในเด็กผู้หญิงวัยเจริญมีผลส่วนหนึ่งมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายที่เพิ่มขึ้น แต่โดยธรรมชาติหน้าอกจะหยุดขยายเมื่ออายุ 18 ปี

 

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประโยชน์ของกวาวเครือขาวต่อสุขภาพผู้หญิง

บรรเทาอาการในวัยหมดประจำเดือน

ร่างกายของผู้หญิงวัยหมดประเดือน จะผลิตฮอร์โมนเพศและฮอร์โมนบางชนิดน้อยลงอย่างมาก โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน  (Estrogens)  ซึ่งภาวะขาดฮอร์โมนในวัยหมดประเดือน อาจทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย ช่องคลอดแห้ง และประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยอาการเหล่านี้ส่งผลต่อทั้งสภาพร่างกายและอารมณ์ รวมถึงการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก

การศึกษาขนาดเล็กชิ้นหนึ่งได้ทดสอบสรรพคุณของกวาวเครือขาวในการช่วยบรรเทาอาการจากภาวะหมดประเดือนในผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดมดลูกจำนวน 52 คน โดยให้ผู้เข้ารับการทดลองรับประทานอาหารเสริมกวาวเครือขาวติดต่อกัน 6 เดือน ผู้ทดลองใช้ Climacteric Scale เป็นเกณฑ์วัดค่าอาการของภาวะหมดประจำเดือน หากค่ามากแสดงว่าอาการมีความเข้มข้นหรือรุนแรง

ภายหลังการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองมีคะแนนตาม Climacteric Scale ลดลง เมื่อเทียบกับก่อนเข้ารับการทดลอง ผู้ทดลองจึงคาดว่ากวาวเครือขาวสกัดในรูปแบบอาหารเสริมอาจส่งผลดีต่อภาวะหมดประจำเดือนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

นอกจากสรรพคุณในการบรรเทาอาการภาวะหมดประจำเดือนโดยรวมแล้ว นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าด้วยฤทธิ์ของไฟโตเอสโตรเจนอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและภาวะหลังหมดประจำเดือน (Postmenopause) ได้

 

ความเสี่ยงที่ควรทราบและวิธีใช้กวาวเครือขาวให้ปลอดภัย

  • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมกวาวเครือขาว โดยแจ้งโรคประจำตัว ยา อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหืด โรคเบาหวาน โรคลมชัก โรคไมเกรน โรคไขมันในเลือดสูง โรคเอสแอลอี (SLE) และผู้ที่รักษาโรคด้วยวิธีฮอร์โมนบำบัดหรือฮอร์โมนทดแทน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและเป็นอันตรายได้
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมลูก ควรหลีกเลี่ยงการใช้อาหารเสริมกวาวเครือขาว
  • หลีกเลี่ยงการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์กวาวเครือขาวทุกประเภทที่โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์
  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กวาวเครือขาวที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.เสมอ และตรวจสอบเลขจดแจ้งของผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ของทางหน่วยงานเพื่อป้องกันสินค้าที่สวมเลขจดแจ้งผลิตภัณฑ์

แหล่งที่มา : https://www.pobpad.com

by author1 author1

สัมมนาเชิงวิชาการ ” กัญชา พารวย “

ครั้งที่  49

 สัมมนาเชิงวิชาการ ” กัญชา พารวย “

                        ณ ศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการอบแห้งแบบพ่นฝอย        

            

by author1 author1

กรดยางออแกนิก

กรดยางออแกนิก นวัตกรรมใหม่ไม่กัดคน

ได้เป็นอย่างดี นอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว ยังมีความปลอดภัยกว่าด้วยการใช้กรดส้มยาง หรือ กรดแอซิติก กรดฟอร์มิก กรดกำมะถัน เพื่อให้น้ำยางแข็งตัวก่อนนำไปแปรรูปเป็นยางแท่ง ยางแผ่น เป็นเรื่องที่เกษตรกรชาวสวนยางรู้จักใช้กันมานาน แต่ก็ยังมีปัญหาราคาแพง กรดส้มยางมีฤทธิ์กัดกร่อน ใช้โดยไม่ระมัดระวัง กรดส้มยางมีสิทธิ์กระเด็นเข้าตาทำให้บอดได้ หากราดพลาดไปโดนหน้ายางจะกลายเป็นตายนึ่ง กรีดยางไม่ได้ กรดส้มหกไหลลงพื้นดินทำให้ต้นยางรากเน่าตาย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กลุ่มเกษตรไทยไชโย ภาคตะวันออก ได้ร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ผลิตกรดออแกนิก ที่สามารถใช้แทนกรดน้ำส้ม

 

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235

นายประมุข เวชย์สกล นักวิชาการกลุ่มเกษตรไทยไชโย เผยว่า ได้ใช้เวลาคิดค้นกรดตัวนี้มากว่า 2 ปี และจากการนำไปทดสอบใช้งานจริง หยดลงถ้วยน้ำยาง 24 ซีซี หรือ 3 ช้อนแกงต่อน้ำยาง 1 ถ้วย 300 ซีซี กวนให้เข้ากัน ไม่ต้องปาดฟองอากาศออก ทิ้งไว้ให้จับตัวเป็นก้อน ปรากฏว่า น้ำยางแข็งตัวไว ก้อนยางสีสวย ไม่ติดก้นถ้วย นำไปแขวนไว้บนราวให้แห้งประมาณ 7-10 วัน คุณสมบัติไม่ต่างจากการใช้กรดน้ำส้มแบบเดิมทุกประการ

 

แต่ความปลอดภัยมีมากกว่า สังเกตได้จากกรดออแกนิกไม่มีกลิ่นของสารระเหยที่รุนแรงกับจมูก และเมื่อยางแข็งตัว เกษตรกรสามารถใช้มือเปล่าไล่บิดน้ำทิ้งใต้โคนต้นได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าต้นยางจะเสียหาย ขี้ยางไม่มีกลิ่นเหม็น

และที่เห็นได้ชัดเจน สามารถนำกรดออแกนิกมาราดมือได้โดยไม่มีอันตราย ไม่รู้สึกแสบคันแต่อย่างใด ไม่เหมือนกรดส้มยางแบบเดิมที่ราดแล้วจะเกิดแสบคันและพุพองตามมา อีกทั้งเมื่อนำยางก้อนถ้วยไปทำเป็นยางแผ่นก็ไม่ทำความเสียหายให้กับเครื่องมือรีดยาง

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235

 

 

 

 

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235

 

 

 

by author1 author1

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำจุลินทรีย์

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำจุลินทรีย์


1.น้ำจุลินทรีย์ที่นำมาแปรรูป

2.แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง

 

3.ผลิตภัณฑ์ผงจุลินทรีย์ที่ได้

by author1 author1

ขั้นตอนการระเหยเข้มข้นและสเปร์ยดรายผงจากน้ำซุปปลา

ขั้นตอนการระเหยเข้มข้นและสเปร์ยดรายผงจากน้ำซุปปลา

 


1. วัตถุดิบซุปปลาที่นำมาแปรรูป

2.แปรรูปด้วย เครื่องระเหยเข้มข้น (FALLING  FILM  EVAPORATOR) ระเหยน้ำออกจากวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อทำให้เข้มข้น

3.ผลิตภัณฑ์น้ำซุปปลาเข้มข้นที่ได้

4. แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง

5.ผลิตภัณฑ์ผงน้ำซุปปลาที่ได้

 

by author1 author1

ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากมันสำปะหลังบด

ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากมันสำปะหลังบด

 

1..มันสำปะหลังที่นำมาแปรรูป

2.แปรรูปด้วย เครื่องทำแห้งแบบลูกกลิ้งคู่ ( TWIN DRUM DRYER ) ทำวัตถุดิบของเหลวให้แห้งโดยเทวัตถุดิบของเหลวลงในช่องระหว่างลูกกลิ้ง

3.ผลิตภัณฑ์ผงมันสำปะหลังบดที่ได้