ขั้นตอนการสกัดดอกเก๊กฮวยแห้ง
1.ดอกเก๊กฮวยที่นำมาแปรรูป
2..แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว
3.ผลิตภัณฑ์น้ำสกัดเก๊กฮวยที่ได้
ขั้นตอนการสกัดดอกเก๊กฮวยแห้ง
1.ดอกเก๊กฮวยที่นำมาแปรรูป
2..แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว
3.ผลิตภัณฑ์น้ำสกัดเก๊กฮวยที่ได้
ดอกเก๊กฮวย
ดอกเก๊กฮวย หรือจวี๋ฮัว มีหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์หลักที่ใช้เป็นยา คือ สีขาว Dendranthema morifolium (Ramat.) Tzvel. หรือ Chrysanthemum morifolium Ramat. ตระกูล Asteraceae และส่วนสายพันธุ์ดอกสีเหลือง Dendranthema indicum L. หรือ Chrysanthemum indicum L .
แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php
การเก็บดอกเป็นยา จะเก็บเมื่อปลายฤดูใบไม้ร่วง และช่วงต้นของฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ชนิดนี้บาน นำมาตากในที่ร่วมจนแห้ง คุณสมบัติประจำตัว คือ มีกลิ่นฉุน ขม และ รสหวาน มีความเย็น มีผลโดยตรงต่อปอด และ ตับ การออกฤทธิ์ ขับไล่ลม (วาตะ) ความร้อน ช่วยขจัดความร้อนหรือไฟออกจากตับ อันจะมีผลช่วยในการรักษาโรคทางตา และขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php
สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์
ตำรายาเวียตนามกล่าวถึง เก๊กฮวยจีนดอกสีขาวว่า ใช้เหมือนดอกสีเหลือง
มีประโยชน์ต่อเลือด และการไหลเวียนเลือด ให้พลังชีวิต ดอกใช้ในการแก้หวัด ปวดหัวและตาอักเสบ ใช้ประโยชน์โดยเฉพาะในการรักษาผมร่วง หรือทำให้ไม่เปลี่ยนเป็นสีเทา
สรุปการใช้เก๊กฮวย แก้หวัด แก้ร้อนใน แก้อาการตาเจ็บ ตาบวม ขนาดการใช้ ใช้ดอกแห้ง ประมาณ ๕-๙ กรัม ต้มกิน หรือทำเป็นชา ต้มดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php
แหล่งที่มา : https://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n75.php
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
แหล่งที่มา : https://www.disthai.com/16963821
กวาวเครือขาวกับสรรพคุณบำรุงสุขภาพผู้หญิง
กวาวเครือขาว (Pueraria Mirifica) เป็นพืชที่พบได้ในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกวาวเครือขาวที่พบในท้องตลาด มักเป็นกวาวเครือขาวสกัดในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามของผู้หญิง ผู้ขายมักโฆษณาว่าอาหารเสริมกวาวเครือขาวช่วยลดอาการวัยทองและอีกหลายสรรพคุณ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
กวาวเครือขาว มีสารเคมีธรรมชาติที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศของผู้หญิง ผู้ขายหรือแพทย์แผนโบราณบางส่วน จึงเชื่อว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้ช่วยบรรเทาอาการของสตรีวัยหมดประจำเดือนและบำรุงสุขภาพผู้หญิงได้ แต่ในมุมของแพทย์แผนปัจจุบัน สารเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดความเสี่ยงบางอย่างได้
กวาวเครือขาวเพิ่มขนาดหน้าอกได้จริงหรือ ?
โดยผู้ขายอนุมานจากส่วนประกอบของกวาวเครือขาว ที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ที่ทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย เพราะเดิมทีการเจริญเติบโตของขนาดหน้าอกในเด็กผู้หญิงวัยเจริญมีผลส่วนหนึ่งมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายที่เพิ่มขึ้น แต่โดยธรรมชาติหน้าอกจะหยุดขยายเมื่ออายุ 18 ปี
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประโยชน์ของกวาวเครือขาวต่อสุขภาพผู้หญิง
ร่างกายของผู้หญิงวัยหมดประเดือน จะผลิตฮอร์โมนเพศและฮอร์โมนบางชนิดน้อยลงอย่างมาก โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogens) ซึ่งภาวะขาดฮอร์โมนในวัยหมดประเดือน อาจทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย ช่องคลอดแห้ง และประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยอาการเหล่านี้ส่งผลต่อทั้งสภาพร่างกายและอารมณ์ รวมถึงการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก
การศึกษาขนาดเล็กชิ้นหนึ่งได้ทดสอบสรรพคุณของกวาวเครือขาวในการช่วยบรรเทาอาการจากภาวะหมดประเดือนในผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดมดลูกจำนวน 52 คน โดยให้ผู้เข้ารับการทดลองรับประทานอาหารเสริมกวาวเครือขาวติดต่อกัน 6 เดือน ผู้ทดลองใช้ Climacteric Scale เป็นเกณฑ์วัดค่าอาการของภาวะหมดประจำเดือน หากค่ามากแสดงว่าอาการมีความเข้มข้นหรือรุนแรง
ภายหลังการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองมีคะแนนตาม Climacteric Scale ลดลง เมื่อเทียบกับก่อนเข้ารับการทดลอง ผู้ทดลองจึงคาดว่ากวาวเครือขาวสกัดในรูปแบบอาหารเสริมอาจส่งผลดีต่อภาวะหมดประจำเดือนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
นอกจากสรรพคุณในการบรรเทาอาการภาวะหมดประจำเดือนโดยรวมแล้ว นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่าด้วยฤทธิ์ของไฟโตเอสโตรเจนอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและภาวะหลังหมดประจำเดือน (Postmenopause) ได้
ความเสี่ยงที่ควรทราบและวิธีใช้กวาวเครือขาวให้ปลอดภัย
แหล่งที่มา : https://www.pobpad.com
กรดยางออแกนิก นวัตกรรมใหม่ไม่กัดคน
ได้เป็นอย่างดี นอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว ยังมีความปลอดภัยกว่าด้วยการใช้กรดส้มยาง หรือ กรดแอซิติก กรดฟอร์มิก กรดกำมะถัน เพื่อให้น้ำยางแข็งตัวก่อนนำไปแปรรูปเป็นยางแท่ง ยางแผ่น เป็นเรื่องที่เกษตรกรชาวสวนยางรู้จักใช้กันมานาน แต่ก็ยังมีปัญหาราคาแพง กรดส้มยางมีฤทธิ์กัดกร่อน ใช้โดยไม่ระมัดระวัง กรดส้มยางมีสิทธิ์กระเด็นเข้าตาทำให้บอดได้ หากราดพลาดไปโดนหน้ายางจะกลายเป็นตายนึ่ง กรีดยางไม่ได้ กรดส้มหกไหลลงพื้นดินทำให้ต้นยางรากเน่าตาย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กลุ่มเกษตรไทยไชโย ภาคตะวันออก ได้ร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ผลิตกรดออแกนิก ที่สามารถใช้แทนกรดน้ำส้ม
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235
นายประมุข เวชย์สกล นักวิชาการกลุ่มเกษตรไทยไชโย เผยว่า ได้ใช้เวลาคิดค้นกรดตัวนี้มากว่า 2 ปี และจากการนำไปทดสอบใช้งานจริง หยดลงถ้วยน้ำยาง 24 ซีซี หรือ 3 ช้อนแกงต่อน้ำยาง 1 ถ้วย 300 ซีซี กวนให้เข้ากัน ไม่ต้องปาดฟองอากาศออก ทิ้งไว้ให้จับตัวเป็นก้อน ปรากฏว่า น้ำยางแข็งตัวไว ก้อนยางสีสวย ไม่ติดก้นถ้วย นำไปแขวนไว้บนราวให้แห้งประมาณ 7-10 วัน คุณสมบัติไม่ต่างจากการใช้กรดน้ำส้มแบบเดิมทุกประการ
แต่ความปลอดภัยมีมากกว่า สังเกตได้จากกรดออแกนิกไม่มีกลิ่นของสารระเหยที่รุนแรงกับจมูก และเมื่อยางแข็งตัว เกษตรกรสามารถใช้มือเปล่าไล่บิดน้ำทิ้งใต้โคนต้นได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าต้นยางจะเสียหาย ขี้ยางไม่มีกลิ่นเหม็น
และที่เห็นได้ชัดเจน สามารถนำกรดออแกนิกมาราดมือได้โดยไม่มีอันตราย ไม่รู้สึกแสบคันแต่อย่างใด ไม่เหมือนกรดส้มยางแบบเดิมที่ราดแล้วจะเกิดแสบคันและพุพองตามมา อีกทั้งเมื่อนำยางก้อนถ้วยไปทำเป็นยางแผ่นก็ไม่ทำความเสียหายให้กับเครื่องมือรีดยาง
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/content/449235
ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำจุลินทรีย์
1.น้ำจุลินทรีย์ที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
3.ผลิตภัณฑ์ผงจุลินทรีย์ที่ได้
ขั้นตอนการระเหยเข้มข้นและสเปร์ยดรายผงจากน้ำซุปปลา
1. วัตถุดิบซุปปลาที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องระเหยเข้มข้น (FALLING FILM EVAPORATOR) ระเหยน้ำออกจากวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อทำให้เข้มข้น
3.ผลิตภัณฑ์น้ำซุปปลาเข้มข้นที่ได้
4. แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
5.ผลิตภัณฑ์ผงน้ำซุปปลาที่ได้
ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากมันสำปะหลังบด
1..มันสำปะหลังที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องทำแห้งแบบลูกกลิ้งคู่ ( TWIN DRUM DRYER ) ทำวัตถุดิบของเหลวให้แห้งโดยเทวัตถุดิบของเหลวลงในช่องระหว่างลูกกลิ้ง
3.ผลิตภัณฑ์ผงมันสำปะหลังบดที่ได้
ขั้นตอนการสกัดด่วน, ระเหยเข้มข้น และสเปรย์ดราย จากใบย่านาง
1.ใบย่านางที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว
3.ผลิตภัณฑ์น้ำสกัดจากใบย่านางที่ได้
4.แปรรูปด้วย เครื่องระเหยเข้มข้น (FALLING FILM EVAPORATOR) ระเหยน้ำออกจากวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อทำให้เข้มข้น
5.ผลิตภัณฑ์น้ำใบย่านางเข้มข้นที่ได้
6.แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
7.ผลิตภัณฑ์ผงน้ำใบย่านางสกัดที่ได้
ขั้นตอนการทำ FLUIDIZED BED GRANULATORจาก Citrus Aurantium Extract
1. Citrus Aurantium Extract ที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องทำแกรนูลแบบฟลูอิดไดซ์เบด (Fluidized Bed Granulator) อบผงด้วยลมร้อนในตัวถังเกาะกลุ่มด้วยสารช่วยยึดเกาะ
3.ผลิตภัณฑ์ผง Citrus Aurantium Extract เกาะกลุ่มที่ได้
ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากน้ำแป้งกล้วยดิบ
1.แป้งกล้วยที่นำมาแปรรูป