ประโยชน์หม่อน
 1. ใบสดเมื่อนำใบมาเคี้ยวสดๆจะมีรสหวานอมขมเย็นเล็กน้อย บางท้องถิ่นนำมากินสด
 2. ปัจจุบันนิยมนำใบมาตากแห้ง และชงดื่มเป็นน้ำชาใบหม่อน ซึ่งจะให้กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์ และรสชาติเหมือนชา แต่อมหวานเล็กน้อย
ใบหม่อน (ต้มน้ำหรือใบแห้งชงเป็นชาดื่ม)
 – ช่วยในการผ่อนคลาย
 – แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
 – ช่วยลดไข้หวัด และอาการปวดหัว
 – ช่วยแก้อาการวิงเวียนศรีษะ
 – แก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้คอแห้ง
 – ต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์
 – ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และช่วยทุเลาอาการจากโรคเบาหวาน
 – ลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด
 – ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
 – ช่วยลดความดันเลือด
 – ต้านแบคทีเรีย ช่วยแก้อาการท้องเสีย
ข้อแนะนำการนำไปใช้
 1. การเลือกใบหม่อนเพื่อทำยา ควรเลือกใบเขียวสด ดูอวบทั่วทั้งใบ และไม่มีรอยกัดกินของแมลง
 2. การนำใบหม่อนมาทำยาสามารถทำด้วยวิธีการตากแห้งใบ แล้วบดอัดใส่แคปซูลรับประทานหรือการนำใบแห้งมาต้มดื่มเป็นชาใบหม่อน
 3. ไม่ควรใช้ยาต่อเนื่อง และในปริมาณที่มากๆ เพราะอาจได้รับสารแทนนินที่มีผลต่อระบบการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้
 4. หากพบมีอาการแพ้หรือมีผลผิดปกติในร่างกาย ให้หยุดการใช้ทันที
แหล่งที่มา : https://puechkaset.com/
น้ำยางพารา
น้ำยางสดเป็นของเหลวสีขาวคล้าย ๆ น้ำกะทิหรือน้ำนม น้ำยางสดจะมีความหนืดเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีฤทธิ์เป็นกลางและมีประจุลบจึงต้องใช้สารที่มีประจุบวกในการจับตัวยาง น้ำยางหลังจากกรีด ถ้าหากตั้งทิ้งไว้นานกว่า 4 ชั่วโมง จะเริ่มเสียสภาพสังเกตจากน้ำยางขณะที่ยังสดจะเหลวสามารถกระจายตัวได้ดีในน้ำ
- น้ำยางสดเริ่มเสียสภาพจะข้นหนืด ⇒ การกระจายตัวในน้ำจะช้ากว่าปกติ
 - น้ำยางเริ่มบูดน้ำยางจะเริ่มเกาะตัวเป็นเม็ดเล็ก ๆ ⇒ หยดน้ำยางเพียง 1 หยด ลงในน้ำ ถ้าน้ำยางเริ่มเสียสภาพจะเห็นการจับตัว ของเนื้อยางเป็นเม็ดเล็ก ๆ ในน้ำ
 - น้ำยางยังสดอยู่ ⇒ หยดลงในน้ำจะสามารถกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว
 
น้ำยางที่เสียสภาพจะไม่แนะนำให้ผลิตเป็นยางแผ่นดิบ เพราะจะเกิดฟองอากาศในแผ่นยาง และไม่แนะนำให้ผลิตเป็นน้ำยางข้นเพราะจะไม่สามารถควบคุมค่าความบูดของน้ำยางได้ นอกเสียจากจะนำไปทำเป็นยางก้อนหรือเข้าสู่กระบวนการผลิตยางแท่ง
แหล่งที่มา : http://www.raot.co.th/ewt_news.php?nid=5980&filename=index