by author1 author1

กระเทียมสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ทางยา

กระเทียมสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ทางยา

 กระเทียม เป็นพืชสมุนไพรเก่าแก่ ซึ่งมีฤทธิ์ทางยาหลายอย่าง แม้กระทั่งบิดาทางการแพทย์ของกรีกโบราณ คือ ฮิปโปเครติส ก็ยกย่อว่ากระเทียม คือ สมุนไพรที่ให้ประโยชน์ทางยาสูงสุดชนิดหนึ่ง เช่น ต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบางชนิด ที่สำคัญคือ ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและไขมันชนิดไม่ดีที่ร่างกายไม่ต้องการ จึงแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตีบตันกินกระเทียมเป็นประจำ

ในกระเทียมสด 1 กลีบ  ประกอบไปด้วย

น้ำ 64.3%
โปรตีน 7.9%
ไขมัน 0.6%
คาร์โบไฮเดรต 16.3%
พลังงานทั้งหมด 98 กิโลแคลอรี

 

สารออกฤทธิ์สำคัญในกระเทียม

  • ไดซัลไฟด์ช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอลและไขมันในเลือด
  • อัลลิซินช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบ
  • อัลลิอินมีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะ
  • เซลิเนียมเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ควบคุมการทำงานของร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ
  • กำมะถันป้องกันโรคผิวหนังหลายชนิด บำรุงข้อต่อและกล้ามเนื้อ

คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของกระเทียม

  1.  ด้านระบบย่อยอาหาร
  2.  ฤทธิ์ในการปกป้องการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดทั่วไป
  3.  ฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง
  4.  กระเทียมช่วยเสริมการทำงานของอวัยวะต่างๆ
  5. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ

กระเทียมเหมาะสำหรับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตีบตัน
  • ผู้ที่ต้องการเสริมคุณค่าของไฟโตนิวเทรียนท์ในกระเทียมแก่ร่างกาย

แหล่งที่มา : https://hellokhunmor.com

ข้อควรระวังในการรับประทานกระเทียม

หากรับประทานมากเกินไป อาจพบอาการ เช่น คลื่นไส้อาเจียน โลหิตจาง น้ำหนักลด ควรหยุดการรับประทานสักระยะ

 

แหล่งที่มา : https://www.nutrilite.co.th/th/article/garlic

by author1 author1

ไก่ดำ ทำไมถึงมีสีดำ

ไก่ดำ ทำไมถึงมีสีดำ ?

ไก่ เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีคุณประโยชน์กับมนุษย์มาก เนื้อไก่และไข่ไก่ถูกใช้เป็นอาหารมาช้านาน เนื่องจากไก่มีโปรตีนสูง ไก่บางชนิดถูกเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่แจ้ ไก่ฟ้า เป็นต้น แต่มีไก่อยู่ชนิดหนึ่งที่ลักษณะแปลกคือมีสีดำทั้งตัว นั้นก็คือ ไก่ดำ ไก่ดำทำไมถึงมีสีดำเรามารู้คำตอบกัน

 

ไก่ดำ เรียกว่า อายัม เสมานี (Ayam cemani) มาจากภาษาอินโดนีเซีย “อายัม” ที่แปลว่า ไก่ กับชื่อหมู่บ้าน “เสมานี” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ ไก่ชนิดนี้ถูกผสมพันธุ์ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920 ไก่ดำเป็นไก่ที่มีสีดำทั้งตัวสมชื่อ ตั้งแต่ขนสีดำไปจนถึง ขา เล็บ จะงอยปาก ผิวหนัง เนื้อ ดวงตา หรือแม้แต่อวัยวะภายในก็ยังมีสีดำ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ดำทั้งตัวไปถึงหัวใจจริงๆ ยกเว้นไข่ของมันที่ยังคงเป็นสีขาวอยู่

ไก่ดำเป็นสัตว์ที่มีราคาสูง และมักถูกนำมาบริโภคโดยต้มกับสมุนไพรเพื่อใช้เป็นยาอายุวัฒนะ เนื่องจากมีความเชื่อว่าเนื้อของไก่ดำจะมอบพลังอำนาจให้แก่ผู้กิน

แต่ในความจริงแล้วการที่ไก่ดำมีสีดำได้นั้น เกิดจากเม็ดสี “เมลานิน” (Melanin) ที่ถูกผลิตจากเซลล์ที่เรียกว่า “เมลาโนไซต์” (Melanocyte) ซึ่งตามปกติเซลล์ชนิดนี้จะอยู่ในบริเวณผิวหนังชั้นใน แต่ในไก่ดำในช่วงที่เป็นตัวอ่อน หรือเอมบริโอ เซลล์อ่อนของเซลล์เม็ดสีที่เรียกว่า “เมลาโนบลาสต์” (Melanoblast) มีปริมาณมากกว่าปกติได้กระจายไปยังทุกส่วนทั่วร่างกาย รวมถึงอวัยวะภายในจึงทำให้ไก่ชนิดนี้มีสีดำไปถึงเนื้อในอย่างแท้จริง

ไก่ดำจึงเป็นสัตว์ที่น่าพิศวงมาก ความสวยงามของไก่ดำที่มาจากความดำที่สมบูรณ์แบบ ทำให้บางพื้นที่นิยมนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และเป็นอาหารอีกด้วย

แหล่งที่มา : https://www.nsm.or.th/other-service/

by satit.t satit.t

แบคทีเรียดี…มีประโยชน์

แบคทีเรียดี…มีประโยชน์

“สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก” ที่ไม่ควรมองข้าม แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า พบทั่วไปในธรรมชาติ ดิน น้ำ และอากาศ ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลม (Cocci) แท่ง (Bacilli, Rod) และเกลียว (Spiral) มีเซลล์เดียวและโครงสร้างไม่ซับซ้อน

นักวิทยาศาสตร์แบ่งแบคทีเรียออกเป็น

  • ชนิดที่ไม่มีประโยชน์ (ผู้ร้าย)
  • ชนิดดีที่มีประโยชน์ (พระเอก)

ตัวอย่างแบคทีเรียดีที่เราได้ยินบ่อยครั้ง คือ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ใช้ผลิตนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต โดยแบคทีเรียจะช่วยลดอาการท้องอืด อาการท้องเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียม

แบคทีเรียดี….ไม่ได้มีประโยชน์ต่อมนุษย์เท่านั้น กับ ต้นพืช ดินและน้ำ ก็ให้ผลดีในลักษณะเดียวกัน จึงนิยมนำแบคทีเรียมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นพืช ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงสมบัติดิน หรือผลิตภัณฑ์บำบัดคุณภาพของเสีย เป็นต้น อย่างไรก็ตามแบคทีเรียแต่ละชนิดมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน ส่งผลให้ขั้นตอนการผลิตอาจคัดเลือกแบคทีเรียมากกว่าหนึ่งชนิดมาผสมร่วมกันก็ได้ เช่น ย่อยสลายอินทรียวัตถุ ปลดปล่อยธาตุอาหารสำคัญให้กับพืช ผลิตเอนไซม์ หรือกระตุ้นการทำงานของสารชนิดต่างๆ รวมทั้งทำหน้าที่ต่อสู้กับศัตรูทั้งเชื้อโรค แมลงและสารพิษ เสมือนหน่วยลาดตะเวนคอยปกป้องต้นพืช

 

 

แหล่งที่มา : https://www.hrdi.or.th/Articles/Detail/138

by author1 author1

น้ำกระชายเสริมภูมิคุ้มกัน

น้ำกระชายเสริมภูมิคุ้มกัน

กระชาย เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีการใช้เป็นอาหารและยามานาน  ภูมิปัญญาพื้นบ้านใช้แก้โรคที่เกิดในปาก  เช่น  ปากเปื่อย  ปากเป็นแผล  รักษาอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ไซนัสอักเสบ  ช่วยย่อยอาหาร  เพิ่มสมรรถภาพทางเพศชองเพศชาย  ยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง  แก้ปวดเมื่อย

มีการศึกษาพบว่า สารสกัดของกระชายสามารถแสดงฤทธิ์ในการต้านไวรัสซาร์ส ในระยะหลังการติดเชื้อและยังพบว่าสารแพนดูราทิน (pan-duratin) ของกระชายขาวมีฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อ และยังมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเชื้อเอดส์ ต้านไวรัสไข้เลือดออกในกลุ่ม Flaviviridae family และยังยั้งเชื้อพิโคร์นาไวรัส (picornaviruses) ซึ่งก่อโรคมือเท้าปาก

นอกจากนี้ยัง พบว่า ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในสัตว์ทดลองและในคนต่อไป

ส่วนผสม

  • กระชายเหลืองสดครึ่งกิโล (หรือจะใช้สูตรผสมก็ได้ โดยใช้กระชายเหลือง 5 ส่วน กระชายดำ 1 ส่วน และกระชายแดง 1 ส่วน)
  • น้ำผึ้ง
  • น้ำมะนาว
  • น้ำเปล่าต้มสุกที่ทิ้งไว้จนเย็น

 

ขั้นตอนการทำน้ำกระชาย

  • นำกระชายมาล้างให้สะอาด ตัดหัวและท้ายทิ้งไป ถ้าขูดเปลือกออกบ้างก็จะดีมาก
  • นำมาหั่นเป็นท่อน ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาปั่น
  • เตรียมผ้าขาวบางรองด้วยกระชอน
  • นำกระชายที่เตรียมไว้ใส่ในโถปั่นและผสมกับน้ำเปล่าต้มสุกพอประมาณ แล้วปั่นจนละเอียด
  • เทใส่กระชอนที่เตรียมไว้ ถ้าน้ำน้อยก็ให้ผสมน้ำเปล่าลงไปอีก แล้วคั้นเอาแต่น้ำเท่านั้น

 

เมื่อจะดื่มก็เพียงแค่นำมาผสมกับน้ำมะนาว น้ำผึ้งในถ้วยแล้วคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่น้ำกระชายตามลงไป

เมื่อผสมจนรสชาติกลมกล่อมตามที่ต้องการแล้วก็เป็นอันเสร็จ

แต่ถ้ากลัวว่ากลิ่นกระชายจะแรงไป ก็สามารถใช้ใบบัวบกหรือใบโหระพามาปั่นรวมกันก็ได้ตามใจชอบ เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นสูตรตายตัวเท่าไหร่

Tip : น้ำกระชายไม่ควรเก็บไว้นานมาก เพราะจะทำให้ความซ่าและความหอมของกระชายลดน้อยลง ทำให้เกิดตะกอนที่ก้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรดื่มให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้ทั้งรสชาติที่ซ่า ดื่มแล้วชื่นใจ พร้อมประโยชน์เต็ม ๆ ด้วย แต่สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำกระชายแล้วมีอาการแปลก ๆ ร้อนวูบวาบ หรือมีอาการเหงื่อออกหรือเรอออกมาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ หากดื่มไปสักพักเดี๋ยวก็ชินไปเอง

แหล่งที่มา : https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=2348

https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791854

by author1 author1

ขั้นตอนการต้มสกัด,ระเหยเข้มข้น,แปรรูปผงจากกลีบบัวอบแห้ง

ขั้นตอนการต้มสกัด,ระเหยเข้มข้น,แปรรูปผงจากกลีบบัวอบแห้ง

1.กลีบบัว

2.นำเข้าหม้อต้มสกัด

3.ผลิตภัณฑ์น้ำกลีบบัวเข้มข้นที่ได้

4.นำเข้าเครื่อง FALLING  FILM  EVAPORATOR

5. ผลิตภัณฑ์น้ำกลีบบัวเข้มข้นที่ได้

6. นำเข้าเครื่อง SPRAYDRYER

7. ผลิตภัณฑ์ผงกลีบบัวอบแห้งที่ได้

by author1 author1

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำสารสกัดกระชายขาว

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำสารสกัดกระชายขาว

1.กระชายขาว

2.นำเข้าเครื่อง SPRAYDRYER

3.ผลิตภัณฑ์ผงสารสกัดกระชายขาวที่ได้

 

by author1 author1

เกร็ดความรู้ถั่วเหลืองกับประโยชน์ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

ถั่วเหลืองกับประโยชน์ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

ถั่วเหลือง นับว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้ง 5 หมู่ คือ โปรตีน, คาร์โบโฮเดรต, ไขมัน, เกลือแร่และวิตามิน และอุดมด้วยสารอาหารที่สร้างภูมิชีวิต บรรเทาอาการวัยทองในผู้หญิง ทั้งยังช่วยป้องกันโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน และโรคมะเร็งร้ายหลายชนิด ถั่วเหลืองยังเป็น

แหล่งที่มา : https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/893345/

 

สารอาหารในถั่วเหลือง

โปรตีน ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง เมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่น

ไขมัน ไขมันจากนมถั่วเหลืองเป็นไขมันชั้นดี ประกอบด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัว ในอัตราส่วนที่สูง และมีประโยชน์ต่อการบริโภค สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเส้นเลือดได้


วิตามินและเกลือแร่
ถั่วเหลืองถือว่าเป็นแหล่งวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม จะพบค่อนข้างสูง และยังมีวิตามินเอ, วิตามินอี และพบวิตามินดีและวิตามินซี บ้างเล็กน้อย แร่ธาตุส่วนใหญ่ที่พบ คือ โปแตสเซียมฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม, โซเดียม เป็นต้นคาร์โบไฮเดรต ในนมถั่วเหลืองประกอบด้วย อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ซึ่งตัวที่ให้พลังงานแก่ร่างกายและสมอง

แหล่งที่มา : http://www.pswhospital.net/knowledge/

by author1 author1

ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากน้ำแป้งถั่ว

ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากน้ำแป้งถั่ว

1.น้ำแป้งถั่วที่นำมาแปรรูป

 

 

2.นำเข้าเครื่อง  Twin Drum Dryer

3.ผลิตภัณฑ์ผงน้ำแป้งถั่วที่ได้

by author1 author1

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำสารสกัดกระเทียมดำ

ขั้นตอนการแปรรูปผงจากน้ำสารสกัดกระเทียมดำ

1.กระเทียมดำที่นำมาแปรรูป  แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว

2.แปรรูปด้วยเครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง https://www.eurobest.co.th/products/spray-dryer/

3.ผลิตภัณฑ์ผงสารสกัดกระเทียมดำที่ได้